หากเล่นบาคาร่าในคาสิโนหรือในบ่อนการพนัน รูปแบบการเล่นจะเป็นว่าเจ้ามือจะทำการแจกไพ่จำนวน 2 ใบ ให้กับผู้เล่นทุกคนที่อยู่บนโต๊ะเป็นขั้นตอนแรก จากนั้นทุกคนต้องทำการรวมแต้มไพ่ในมือ และทำการเรียกไพ่ใบที่ 3 หากต้องการเพิ่ม แต่ถ้าคุณเล่นผ่านออนไลน์วิธีจะแตกต่างกัน เพราะเราจะมีหน้าที่ในการทายผลเท่านั้นว่าฝ่ายไหนจะชนะระหว่างเจ้ามือกับผู้เล่น โดยเจ้ามือจะแจกไพ่ให้เพียงสองฝั่ง จึงทำให้รูปแบบในการวางเดิมพันอาจแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย แต่การรวมไพ่หรืออื่นๆ จะเหมือนเดิม สำหรับการวางพันในเกมบาคาร่าออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
รูปแบบการวางเดิมพันและอัตราในการจ่าย
– วางเดิมพันผู้เล่น (Player) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 1 ของเงินที่นำมาลงทุน
– วางเดิมพันเจ้ามือ (Banker) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 0.95 ของเงินที่นำมาลงทุน
เพราะจะต้องถูกหักค่านายหน้า 5% หรือที่เรียกกันว่าค่าต๋ง
– วางเดิมพันเสมอ (Tie) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 8 ของเงินที่นำมาลงทุน แต่ถ้าใครที่ไม่ได้วางเดิมพันเสมอจะได้รับเงินเดิมพันคืน
– วางเดิมพันว่าผู้เล่นจะได้ไพ่คู่ (Player Pair) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 11 ของเงินที่นำมาลงทุน
– วางเดิมพันว่าจ้ามือจะได้ไพ่คู่ (Banker Pair) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 11 ของเงินที่นำมาลงทุน
– วางเดิมพันว่าจะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน 2 ใบ หรือดับเบิ้ลเดี่ยว (Any Pair) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 5 ของเงินที่นำมาลงทุน
– วางเดิมพันว่าจะฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่นจะได้ไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน 2 ใบ หรือดับเบิ้ลคู่ (Perfect Pair) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 25 ของเงินที่นำมาลงทุน การวางเดิมลักษณะนี้ยังเป็นวิธีที่จ่ายมากที่สุด
– วางเดิมพันว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 หรือเดิมพันใหญ่ (Big) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 0.5 ของเงินที่นำมาลงทุน
– วางเดิมพันว่าในเกมนั้นจะไม่มีฝั่งไหนเรียกไพ่เพิ่ม หรือเดิมพันเล็ก (Small) หากชนะเดิมพันจะมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 1.5 ของเงินที่นำมาลงทุน
ใครกำลังคิดจะวางเดิมพันออนไลน์ควรทราบรูปแบบต่างๆ ในการการวางเดิมพันเอาไว้ด้วย เพื่อช่วยให้คุณสามารถวางเดิมพันได้ถูกต้องและได้รับเงินรางวัลตามอัตราที่ต้องการ